เมื่อเร็วๆ นี้ ศาลล้มละลายกลางได้ยกคำร้องที่ JTA ยื่นคำร้องขอให้ฟื้นฟูกิจการของ GL เป็นครั้งที่ 2 ศาลได้ดูข้อเท็จจริงใน 3 ประเด็นและพิจารณาให้ยกคำร้อง ได้แก่ 1.) จำนวนหนี้ที่ GL มีต่อ JTA 2.) จำนวนทรัพย์สินของ GL เปรียบเทียบกับจำนวนหนี้สินของ GL 3.) ความสามารถในการประกอบกิจการของ GL โดยศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้ยกคำร้องในคดีฟื้นฟูกิจการที่ J Trust Asia Pte. Ltd. (JTA) เป็นผู้ยื่นคำร้องต่อศาล และพิจารณาว่า บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) (GL) ไม่ได้มีหนี้สินล้นพ้นตัว และข้อกล่าวหาของ JTA ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า เป็นความจริง

       นายทัตซึยะ โคโนชิตะ ประธานกรรมการบริหารของ บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “สำหรับประเด็นแรก ศาลให้ความเห็นว่า JTA ไม่สามารถพิสูจน์จำนวนหนี้ที่ GL มีกับ JTA ได้ ก่อนที่ JTA จะยื่นคำร้องขอให้ฟื้นฟูกิจการของ GL โดย JTA ได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลแพ่งในประเทศไทย เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจากการที่ JTA ลงทุนใน GL ทั้งนี้ JTA พยายามจะโต้แย้งในคดีฟื้นฟูกิจการว่า ค่าเสียหายเหล่านี้คือหนี้ที่ GL มีอยู่กับตน อย่างไรก็ดี ศาลพิจารณาว่า เมื่อคดีแพ่งดังกล่าวยังไม่ถึงที่สุด จำนวนหนี้ที่ GL มีอยู่กับ JTA จึงยังไม่ชัดเจน ดังนั้น ศาลจึงไม่สามารถทราบได้ถึงจำนวนหนี้ที่แน่ชัดระหว่าง GL ที่มีต่อ JTA

       ในการยื่นขอฟื้นฟูกิจการ โดยทั่วไปแล้ว ศาลจะต้องนำสืบให้ได้ว่า จำนวนหนี้สินของบริษัทมีมากกว่าทรัพย์สิน อย่างไรก็ตาม ศาลพิจารณาโดยอ้างอิงจากงบการเงินล่าสุดที่ได้รับการรับรองแล้ว (งบการเงินปลายปี ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2561) JTA ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า GL มีหนี้สินล้นพ้นตัว ซึ่ง GL มีจำนวนทรัพย์สินมากกว่าจำนวนหนี้สินอย่างมาก นอกจากนี้ งบการเงินของ GL ที่ไม่ได้ถูกตั้งคำถาม โดย ก.ล.ต. และ JTA เองก็ไม่สามารถที่จะหาพยานหลักฐานใดมาแสดงได้ว่างบการเงินของ GL นั้นเป็นเท็จ ดังนั้น ศาลเห็นว่า จำนวนทรัพย์สินของ GL มีมากกว่าจำนวนหนี้สินอย่างมากและ GL ไม่ได้มีหนี้สินล้นพ้นตัว และศาลยังพิจารณาว่า GL ยังสามารถประกอบธุรกิจเป็นปกติตั้งแต่ถูกฟ้องคดีฟื้นฟูกิจการ และเมื่อพิจารณารวมกับสองประเด็นแรก พิจารณาให้ยกคำร้องมีผลให้การพักชำระหนี้สิ้นสุดทันที

       นอกจากการยกคำร้องในคดีนี้ ศาลยังพูดถึงข้อเท็จจริงสำคัญบางประการ กล่าวคือ

               1.JTA เป็นบริษัทฯ ที่ประกอบกิจการทางการเงินขนาดใหญ่ และเชี่ยวชาญในการลงทุนทางการเงิน

               2.JTA สามารถเข้าไปดูข้อมูลทางการเงินของ GL และได้ลงทุนใน GL หลังจากการสอบทานธุรกิจอย่างระมัดระวังรวมถึงการว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญทางด้านการเงิน ภาษี และกฎหมาย

               3. ดังนั้น JTA ได้มีความเข้าใจในการลงทุนกับ GL และไม่ได้เป็นการหลอกลวง

               หาก JTA เลือกที่จะอุทธรณ์ ก็จะต้องยื่นอุทธรณ์ภายใน 30 วัน นับจากวันที่ 15 สิงหาคม 2562

      อย่างไรก็ตาม ศาลได้ยกคำร้องขอฟื้นฟูกิจการเป็นครั้งที่ 2 แล้ว และพวกเรามั่นใจว่า ศาลจะยังคงมีผลไปในทางเดิม หาก JTA ใช้สิทธิอุทธรณ์ ทั้งนี้ GL ขอสงวนสิทธิ์ในการเรียกร้องค่าเสียหายจาก JTA ที่มีผลจากกระบวนการทางกฎหมายตั้งแต่ที่ JTA เริ่มต้นดำเนินการทางคดีกับ GL รวมถึงค่าเสียหายที่ไม่ได้จำกัดแค่เพียงค่าดำเนินการทางกฎหมาย

    บริษัทฯ ขอขอบคุณผู้ถือหุ้นและพนักงานของเรา ที่ยังคงเชื่อมั่นและให้ความไว้วางใจบริษัทฯ ตลอดมา โดยบริษัทฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า เราจะยังคงได้รับข่าวดีเช่นเดียวกับครั้งนี้ในครั้งต่อๆ ไป

Click Donate Support Web