: ข่าวด่วน ทันเหตุการณ์ เศรษฐกิจ การลงทุน หุ้น อสังหาริมทรัพย์ ไอที-เทคโนฯ รถยนต์ ท่องเที่ยว ต่างประเทศ รวดเร็วสดใหม่ทุกวัน 
การเลิกจ้างของทรัมป์และ DOGE ซึ่งอาจเป็นการลดจำนวนพนักงานมากที่สุดในประวัติศาสตร์ อาจส่งผลต่อเศรษฐกิจอย่างไร?...
CNBC USA POLITICS : Personal Finance Greg Iacurci @GregIacurci
จุดสำคัญ
ทำเนียบขาวของทรัมป์และหน่วยงานที่เรียกว่าแผนกประสิทธิภาพรัฐบาลของอีลอน มัสก์ ได้ทำการไล่พนักงานของรัฐบาลออกไปแล้วหลายหมื่นคน
การเลิกจ้างพนักงานครั้งนี้อาจถือเป็นการเลิกจ้างพนักงานครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ การที่ IBM เลิกจ้างพนักงานไปประมาณ 60,000 คนในปี 1993 ถือเป็นการเลิกจ้างพนักงานครั้งใหญ่ที่สุดของบริษัท
พนักงานของรัฐบาลกลางอาจประสบปัญหาทางการเงิน เศรษฐกิจท้องถิ่น เช่น วอชิงตัน ดี.ซี. อาจประสบภาวะถดถอย แม้ว่าผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐฯ อาจน้อยมาก นักเศรษฐศาสตร์กล่าว
นิวยอร์กซิตี้, นิวยอร์ก, สหรัฐอเมริกา - 19/02/2025: พนักงานรัฐบาลและผู้ประท้วงออกมาพูดต่อต้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และอีลอน มัสก์ ซึ่งเป็นหัวหน้าหน่วยงานที่เรียกตัวเองว่ากรมประสิทธิภาพของรัฐบาล รวมถึงการผลักดันให้ลดบริการของรัฐบาลกลางและเลิกจ้างพนักงานจำนวนมาก
Protestors in New York City demonstrate against the push by President Donald Trump and Elon Musk, who leads the so-called Department of Government Efficiency, to gut federal services and impose mass layoffs, Feb. 19, 2025.
Michael Nigro/Pacific Press/LightRocket via Getty Images
ผู้ประท้วงในนิวยอร์กซิตี้ประท้วงการผลักดันของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และอีลอน มัสก์ ซึ่งเป็นหัวหน้าหน่วยงานที่เรียกตัวเองว่ากรมประสิทธิภาพของรัฐบาล ที่จะยุบบริการของรัฐบาลกลางและเลิกจ้างพนักงานจำนวนมาก เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2025
Michael Nigro/Pacific Press/LightRocket ผ่าน Getty Images
การที่รัฐบาลทรัมป์ไล่พนักงานรัฐบาลกลางออกไป อาจเท่ากับเป็นการเลิกจ้างพนักงานครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลต่อเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในระดับท้องถิ่น ตามที่นักเศรษฐศาสตร์กล่าว
ทำเนียบขาวได้ดำเนินการไล่พนักงานออกหรือเสนอการซื้อกิจการให้แก่พนักงานในหน่วยงานรัฐบาลกลาง ซึ่งเป็นนายจ้างรายใหญ่ที่สุดของประเทศโดย ได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เรียกว่า แผนกประสิทธิภาพรัฐบาลของอีลอน มัสก์
แม้ว่า จำนวนการเลิกจ้างที่แน่ชัดจะยังไม่ชัดเจน แต่หลักฐานชี้ให้เห็นว่าจนถึงขณะนี้มีจำนวนอย่างน้อยหลายหมื่นคน นักเศรษฐศาสตร์กล่าว
รัฐบาลทรัมป์สั่งให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางไล่พนักงานที่ ‘อยู่ในระหว่างทดลองงาน’ ออก พนักงานที่อยู่ในช่วงทดลองงานคือพนักงานที่เพิ่งถูกจ้างมาใหม่ซึ่งทำงานกับรัฐบาลกลางมาเพียงหนึ่งหรือสองปีและยังไม่ได้รับการคุ้มครองจากราชการพลเรือนอย่างเต็มรูปแบบ
มีพนักงานรัฐบาลประมาณ 220,000 คนที่มีอายุงานไม่ถึง 1 ปี ณ เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2567 ตาม ข้อมูลล่าสุดของสำนักงานบริหารงานบุคคลของสหรัฐอเมริกา
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่รัฐบาลทรัมป์ยังกล่าวอีกว่า พนักงานรัฐบาลกว่า 75,000 คนได้ยอมรับข้อเสนอซื้อกิจการ โดยพวกเขาตกลงที่จะลาออกแต่จะได้รับเงินจนถึงเดือนกันยายน
ประธานเฟด พาวเวลล์ : เราไม่ได้ติดต่อกับ DOGE
เมื่อรวมทั้งสองกลุ่มนี้ ซึ่งมีอยู่เกือบ 300,000 ราย การดำเนินการดังกล่าวจะกลายเป็น 'การเลิกจ้างพนักงานครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา (โดยห่างกันเป็นไมล์)' Callie Cox หัวหน้านักกลยุทธ์ตลาดที่ Ritholtz Wealth Management เขียนเมื่อวันอังคาร
จำนวนเงินดังกล่าวไม่รวมถึงพนักงานรายอื่นๆ ที่อาจต้องออกจากงาน เช่น ผู้รับเหมาที่ทำงานในสำนักงานพัฒนาการระหว่างประเทศของสหรัฐฯเจสซี ร็อธสไตน์ ศาสตราจารย์ด้านนโยบายสาธารณะและเศรษฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ กล่าวในรายการพอดแคสต์เมื่อวันพฤหัสบดีว่า ข้าราชการประจำที่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งในปีที่ผ่านมาก็มีความเสี่ยงที่จะสูญเสียงานเช่นกัน เนื่องจากพวกเขาอยู่ในช่วงทดลองงานในบทบาทใหม่
การเลิกจ้างเกิดขึ้นจากหลายหน่วยงานของรัฐบาล รวมถึงกรมสรรพากรกรมอุทยานแห่งชาติ สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคทางการเงิน และกระทรวงเกษตร กระทรวงศึกษาธิการ พลังงาน กระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ และกระทรวงกิจการทหารผ่านศึกตามรายงานของ Associated Press
ค็อกซ์เขียนว่า ”ในไม่ช้านี้ เราอาจได้รู้ถึงความยากลำบากที่ประชาชนเป็นผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของสหรัฐฯ”
การประเมินขนาดของการลดตำแหน่งงานของรัฐบาลกลาง
Arlene Rusch อดีตพนักงานของกรมสรรพากร โชว์อีเมลแจ้งว่าเธอถูกเลิกจ้าง ขณะที่เธอกำลังออกจากสำนักงานในตัวเมืองเดนเวอร์ รัฐโคโลราโด เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2025 กรมสรรพากร เริ่มเลิกจ้างพนักงานประมาณ 6,000 คน ในช่วงกลางฤดูเก็บภาษี ขณะที่รัฐบาลทรัมป์ลดจำนวนพนักงานของรัฐบาลกลาง
Arlene Rusch, former Internal Revenue Service worker, shows an email notifying her that she has been laid off, as she leaves her office in downtown Denver, Colorado, Feb. 20, 2025. The IRS began laying off roughly 6,000 employees in the middle of tax season as the Trump administration slashes the federal workforce.
Hyoung Chang | Denver Post | Getty Images
Arlene Rusch อดีตพนักงานของกรมสรรพากร โชว์อีเมลแจ้งว่าเธอถูกเลิกจ้าง ขณะที่เธอกำลังออกจากสำนักงานในตัวเมืองเดนเวอร์ รัฐโคโลราโด เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2025 กรมสรรพากรเริ่มเลิกจ้างพนักงานประมาณ 6,000 คน ในช่วงกลางฤดูเก็บภาษี ขณะที่รัฐบาลทรัมป์ลดจำนวนพนักงานของรัฐบาลกลาง
ฮยองชาง | เดนเวอร์โพสต์ | เก็ตตี้อิมเมจ
นักเศรษฐศาสตร์ กล่าวว่า จำนวนการลดจำนวนพนักงานในที่สุดนั้นไม่น่าจะสูงถึง 300,000 ราย
ตัวอย่างเช่น อาจมีความขัดแย้งบางอย่างเกิดขึ้น เช่น พนักงานทดลองงานที่อาจถูกไล่ออกอาจยอมรับการซื้อหุ้นคืน นอกจากนี้ ในบางกรณี รัฐบาลทรัมป์พยายามจ้างพนักงานที่ถูกไล่ออกกลับเข้ามาทำงานอีกครั้ง
การเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะแสดงให้เห็นว่าพนักงานรัฐบาลมากกว่า 26,000 รายถูกไล่ออกแล้ว โดยไม่รวมการซื้อกิจการ ตามบันทึกการวิจัยของธนาคารเพื่อการลงทุน Piper Sandler เมื่อวันพุธ
นั่นเป็นจำนวนคนงานที่สูญเสียงานเมื่อบริษัท Lehman Brothers ล้มละลายในช่วงวิกฤตการณ์ทางการเงินในปี 2008 เช่นกัน
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเงินส่วนบุคคล :
วุฒิสมาชิกเอลิซาเบธ วาร์เรน : การไล่ FDIC ของ DOGE ออกทำให้ระบบธนาคารเสี่ยงอันตราย
องค์กรการกุศลอันดับต้นๆ ตกอยู่ในอันตรายท่ามกลางทำเนียบขาวและการตัดความช่วยเหลือต่างประเทศของ DOGE
ผู้ชนะที่อาจได้รับจากภาษีของทรัมป์ : นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปต่างประเทศ
แต่โทมัส ไรอัน นักเศรษฐศาสตร์ประจำอเมริกาเหนือจาก Capital Economics ประเมินว่าเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางน่าจะถูกเลิกจ้างไปแล้วประมาณ 100,000 ถึง 200,000 ราย
ซึ่งนั่นจะแซงหน้าการเลิกจ้างพนักงาน 60,000 คนของ IBM ในปี 1993 ซึ่งถือเป็นการเลิกจ้างพนักงานครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ในบรรดาบริษัทที่เลิกจ้างพนักงานจำนวนมากCitigroupและSears, Roebuck & Co.ต่างก็เลิกจ้างพนักงานไปประมาณ 50,000 คนในปี 2008 และ 1993 ตามลำดับ
Susan Houseman นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจาก WE Upjohn Institute for Employment Research ซึ่งเป็นองค์กรไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด เขียนในอีเมลว่า ”แน่นอนว่าหากพนักงานทดลองงานกว่า 200,000 คนถูกไล่ออก [โดยไม่มีการหาคนมาทดแทน] นั่นคงจะเป็นประวัติศาสตร์”
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า แม้ว่าจะมีการเลิกจ้างพนักงานของรัฐบาลกลางก่อนหน้านี้แล้ว แต่ขนาดของการลดจำนวนที่อาจเกิดขึ้นยังดูเหมือนไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ตัวอย่างเช่น กองทัพบกของสหรัฐฯ เลิกจ้างพนักงาน 50,000 คนในเดือนกันยายน 2011 เนื่องจากอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามาถอนทหารออกจากอัฟกานิสถานและอิรักตามข้อมูลของบริษัทจัดหางาน Challenger, Gray & Christmas กองทัพอากาศสหรัฐฯ ประกาศแผนลดจำนวนพนักงานในปี 2005 บริษัทดังกล่าวระบุ
ในไม่ช้านี้ เราคงได้รู้ถึงความยากลำบากที่ประชาชนเป็นผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
แคลลี่ ค็อกซ์
หัวหน้านักยุทธศาสตร์ตลาดที่ Ritholtz Wealth Management
สำนักงานสถิติแรงงานได้ติดตามข้อมูลการเลิกจ้างพนักงานจำนวนมากของรัฐบาลกลางตั้งแต่ปี 1995 จนถึงปี 2003 ในช่วงเวลาดังกล่าว พนักงานของรัฐบาลกลางได้รับผลกระทบจากการเลิกจ้างพนักงานจำนวนมากตั้งแต่ประมาณ 9,000 รายต่อปีไปจนถึง 23,000 รายต่อปี
Mark Zandi หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Moody’s กล่าวว่า หากการลดตำแหน่งงานของรัฐบาลกลางในปัจจุบัน ”ยังไม่ถือเป็นเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ เราก็รู้สึกเหมือนว่าเรากำลังมุ่งหน้าไปในทิศทางนั้นอย่างรวดเร็ว”
ทำเนียบขาวไม่ได้แสดงความคิดเห็นถึงขอบเขตการตัดลดที่เจาะจง
แอนนา เคลลี โฆษกทำเนียบขาวกล่าวในแถลงการณ์เป็นลายลักษณ์อักษรว่า “ประธานาธิบดีทรัมป์และฝ่ายบริหารของเขากำลังดำเนินการตามภารกิจของชาวอเมริกันในการกำจัดการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยและทำให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งรวมถึงการปลดพนักงานทดลองงานที่ไม่สำคัญต่อภารกิจ นี่เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามครั้งใหญ่ของประธานาธิบดีทรัมป์ในการประหยัดเงินภาษีของประชาชน ลดการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย และฟื้นฟูเศรษฐกิจที่พังทลายของเรา”
ผลกระทบทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้น
การสูญเสียงานอาจสร้างความเจ็บปวดให้กับการเงินในครัวเรือน
แรงงานที่ได้รับผลกระทบซึ่งไม่สามารถหางานใหม่ได้อย่างรวดเร็วอาจถูกบังคับให้หาเลี้ยงชีพโดยไม่มีรายได้ประจำ สวัสดิการว่างงานอาจเป็นทางออกชั่วคราวสำหรับแรงงานที่มีสิทธิ์ แต่โดยเฉลี่ยแล้ว สวัสดิการดังกล่าวทดแทนค่าจ้างเดิมได้เพียงประมาณหนึ่งในสามเท่านั้น ตามข้อมูล ของกระทรวง แรงงาน
คนงานส่วนใหญ่ที่ประสบปัญหาการตกงานจะได้รับผลกระทบในระยะยาว เนื่องจากพวกเขาประสบปัญหาในการหางานใหม่แบบเต็มเวลา และมีรายได้น้อยลงตามไปด้วย ตามรายงานการวิจัย ในปี 2016 โดย Henry Farber ศาสตราจารย์กิตติคุณด้านเศรษฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน ซึ่งศึกษาข้อมูลตั้งแต่ปี 1981 ถึง 2015
มัสก์ ปกป้องความพยายาม DOGE
Erica Groshen ที่ปรึกษาเศรษฐศาสตร์อาวุโสแห่งมหาวิทยาลัย Cornell และอดีตคณะกรรมาธิการสำนักงานสถิติแรงงานแห่งสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า ‘คนงานที่ถูกเลิกจ้าง ครอบครัวของพวกเขา และธุรกิจที่พวกเขาควรจะซื้อสินค้าและบริการจากพวกเขา ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจ’
‘ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการเลิกจ้างนั้นเปรียบเสมือนเอฟเฟกต์โดมิโนที่ลามไปทั่วเศรษฐกิจท้องถิ่นไปจนถึงธุรกิจที่ดูเหมือนจะไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับรัฐบาลกลางเลย’ เออร์นี เทเดสกี ผู้อำนวยการด้านเศรษฐศาสตร์ที่ Yale University Budget Lab กล่าว
คนงานที่ถูกเลิกจ้างอาจใช้จ่ายเงินน้อยลงในธุรกิจต่างๆ เช่น ร้านกาแฟในท้องถิ่น ร้านอาหาร และสถานรับเลี้ยงเด็ก เขากล่าว
นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่าการเลิกจ้างคนงานจำนวนมากยังมีปัจจัยทางจิตวิทยาอีกด้วย พนักงานรัฐบาลคนอื่นๆ ที่หวาดกลัวต่องานของตนอาจลดการใช้จ่ายและเลื่อนการซื้อของราคาแพง ออก ไป ธุรกิจที่มีความเชื่อมโยงกับรัฐบาลกลางหรือพนักงานของรัฐบาลกลางอาจหยุดจ้างงานและลงทุนเนื่องจากความไม่แน่นอน
ตัวอย่างเช่น คาดว่ากรุงวอชิงตัน ดี.ซี. จะเผชิญกับอัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้น ‘อย่างมีนัยสำคัญ’ ซึ่งจะทำให้เมืองหลวงเข้าสู่ ‘ภาวะเศรษฐกิจถดถอยเล็กน้อย’อดัม คามินส์และจัสติน เบกลีย์ นักเศรษฐศาสตร์จากมูดี้ส์ เขียนในบันทึกเมื่อวันอังคาร
รับข้อมูลนี้ส่งถึงกล่องจดหมายของคุณ และข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของเรา
เมื่อสมัครรับจดหมายข่าว แสดงว่าคุณยอมรับข้อกำหนดการใช้งานและนโยบายความเป็นส่วนตัวของ เรา
Kamins และ Begley ประมาณการว่าตำแหน่งงานในรัฐบาลกลางเกือบ 100,000 ตำแหน่งจะถูกยกเลิกหรือย้ายออกจากวอชิงตันในอีกสองสามปีข้างหน้า พวกเขาบอกว่าผู้สมัครงานจำนวนมากจะจำกัดความสามารถของภาคเอกชนในการดูดซับพวกเขาเข้าสู่กลุ่มแรงงาน
เศรษฐกิจของรัฐแมรี่แลนด์และเวอร์จิเนียจะไม่ได้รับผลกระทบในระดับเดียวกัน แต่จะได้รับผลกระทบ ”อย่างมาก” เนื่องจากต้องพึ่งพาการจ้างงานภาครัฐ Kamins และ Begley เขียนไว้
Piper Sandler คาดว่าข้อมูลการเลิกจ้างจะไม่ปรากฏในข้อมูลของรัฐบาลกลางอีกเป็นเวลา 1 เดือน และจะไม่ปรากฏในเดือนกันยายนสำหรับผู้ที่ตกลงรับเงินชดเชย ตามที่ระบุ จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานในวอชิงตัน ดี.ซี. ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 8 ก.พ. เพิ่มขึ้น 36%จากสัปดาห์ก่อนหน้า
‘ไม่ได้เป็นภาวะถดถอย’ ด้วยตัวเอง
อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์ไม่คาดหวังว่าการเลิกจ้างจะมีผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยรวม
หากพนักงานทดลองงานราว 200,000 คนต้องสูญเสียงาน ก็จะส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของสหรัฐฯ ประจำปีลดลงประมาณหนึ่งในสิบเปอร์เซ็นต์ เทเดสกี ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ที่สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจทำเนียบขาวในสมัยบริหารของไบเดน กล่าว
“สิ่งนี้ไม่ถือเป็นภาวะเศรษฐกิจถดถอยแต่อย่างใด”เขากล่าว
Elon Musk, second from the left, walks along the colonnade at the White House on Feb. 19, 2025.
Win Mcnamee | Getty Images News | Getty Images
อีลอน มัสก์ (คนที่สองจากซ้าย) เดินไปตามเสาหินแถวทำเนียบขาวเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568
วิน แม็คนามี | ข่าวเก็ตตี้ อิมเมจ | เก็ตตี้ อิมเมจ
Ryan จาก Capital Economics กล่าวว่าขอบเขตของการเลิกจ้างของรัฐบาลกลางนั้นค่อนข้างเล็กเมื่อพิจารณา ในบริบทของตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ซึ่งเพิ่มตำแหน่งงานประมาณ 1.5 ล้านตำแหน่งในปี 2024 เขากล่าวว่าเขาคาดว่าพนักงานของรัฐบาลกลางที่ถูกเลิกจ้างส่วนใหญ่จะได้รับการจ้างงานใหม่อีกครั้งอย่างรวดเร็วเนื่องจากเศรษฐกิจใกล้จะมีการจ้างงานเต็มที่แล้ว ‘ทำให้ความเจ็บปวดใดๆ ที่เกิดขึ้นนั้นอยู่ได้ไม่นาน’
Ryan กล่าวว่า Capital Economics ไม่ได้ปรับลดการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจเนื่องจากการเลิกจ้างพนักงานของรัฐบาลกลาง การประเมินดังกล่าวรวมถึงผลกระทบทางอ้อมที่อาจเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจ
เจ้าหน้าที่สำนักงานประกันสังคมระดับสูงลาออก หลังปฏิเสธไม่ให้ DOGE เข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อน
‘แม้จะรวมผลกระทบที่เกิดขึ้นตามมาด้วย แต่ก็ไม่ได้ทำให้สหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะถดถอย’ เทเดสกีกล่าว ‘มามองความเป็นจริงกันดีกว่า’
นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า การเลิกจ้างจำนวนมากเพิ่มแรงกดดันต่อเศรษฐกิจจากนโยบายอื่นๆ ของรัฐบาลทรัมป์อยู่แล้ว เช่น ภาษีศุลกากรและการเนรเทศจำนวนมาก
‘นี่คือ เศรษฐกิจที่แข็งแรงในปี 2025’เทเดสชีกล่าว’และทันใดนั้น เราก็ต้องเผชิญกับอุปสรรคสำคัญหลายประการที่สะสมกันมา และนี่ก็เป็นหนึ่งในนั้น’
https://www.cnbc.com/2025/02/23/how-trump-doge-job-cuts-may-affect-the-us-economy.html
