: ข่าวด่วน ทันเหตุการณ์ เศรษฐกิจ การลงทุน หุ้น อสังหาริมทรัพย์ ไอที-เทคโนฯ รถยนต์ ท่องเที่ยว ต่างประเทศ รวดเร็วสดใหม่ทุกวัน 
มิทช์ แม็กคอนเนลล์ ประกาศเกษียณอายุ ยุติอาชีพสมาชิกวุฒิสภาที่ยาวนานหลายทศวรรษ
CNBC USA POLITICS : NBC NEWS Sahil Kapur
U.S. Senate Minority Leader Mitch McConnell (R-KY) takes an elevator near his office at the Capitol on November 18, 2024 in Washington, DC.
Andrew Harnik | Getty Images
วอชิงตัน วุฒิสมาชิกมิตช์ แมคคอนเนลล์ จากพรรครีพับลิกัน รัฐเคนตักกี้ ซึ่งเป็นผู้นำวุฒิสภาที่อยู่ในตำแหน่งนานที่สุดในประวัติศาสตร์ ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีเนื่องในวันเกิดครบรอบ 83 ปีของเขาว่า เขาจะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งใหม่ในปีหน้า ซึ่งถือเป็นการสิ้นสุดอาชีพการงานในสภาที่ยาวนานถึง 4 ทศวรรษของเขา
แมคคอนเนลล์ ได้รับการเลือกตั้งครั้งแรกในปี 1984 และไต่เต้าขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาในปี 2007 และอยู่ในตำแหน่งนั้นจนถึงต้นปี 2025 โดยดำรงตำแหน่งในช่วงบริหาร 4 สมัยทั้งในกลุ่มเสียงข้างมากและกลุ่มเสียงข้างน้อย
เขาจะทิ้งมรดกอันซับซ้อนและพรรคการเมืองที่เปลี่ยนแปลงจากแนวทางอนุรักษ์นิยมแบบเดิมไปเป็นพรรคที่นำโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งมีความสัมพันธ์ที่เย็นชาและเย็นชามานานกับประธานาธิบดีทรัมป์
“การได้เป็นตัวแทนของเครือจักรภพของเราถือเป็นเกียรติสูงสุดในชีวิตของผม ผมจะขอเกียรตินี้เป็นครั้งที่แปด” แม็กคอนเนลล์กล่าวในที่ประชุม 'วาระปัจจุบันของผมในวุฒิสภาจะเป็นวาระสุดท้าย'
แม็คคอนเนลล์ สนับสนุนการเสนอชื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์ในปี 2016 และ 2020 เขาตัดสินใจครั้งสำคัญในช่วงต้นปี 2021 ในการลงคะแนนเสียงเพื่อยกฟ้องทรัมป์ในข้อกล่าวหาการยุยงปลุกปั่นให้ก่อกบฏ แม้ว่า เขาจะตำหนิทรัมป์ ว่า 'มีความรับผิดชอบทั้งในทางปฏิบัติและทางศีลธรรมในการยั่วยุเหตุการณ์ในวันนั้น' และเรียกการกระทำของเขาว่าเป็น'การละเลยหน้าที่อันน่าละอาย'
แม้จะมีข้อกังวลใจ แต่เขาก็ยังคงสนับสนุนทรัมป์ให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกครั้งในปี 2024 หลังจากที่เขาได้รับการเสนอชื่อชิงตำแหน่งจากพรรครีพับลิกันเป็นครั้งที่สามติดต่อกัน
การกระทำที่สำคัญที่สุดของแม็คคอนเนลล์เกิดขึ้นระหว่างดำรงตำแหน่งผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาตั้งแต่ปี 2015 ถึง 2021
ในปี 2559 เขาทำให้พรรคเดโมแครตโกรธแค้นด้วยการตัดสินใจที่ไม่ธรรมดาในการปฏิเสธการไต่สวนหรือการลงคะแนนเสียงให้กับผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อจากประธานาธิบดีบารัค โอบามา ให้ดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาศาลฎีกา เนื่องจากตำแหน่งดังกล่าวว่างลงเนื่องจากการเสียชีวิตของผู้พิพากษาแอนโทนิน สกาเลีย การตัดสินใจดังกล่าวซึ่งได้รับความชื่นชมจากบรรดาผู้ยึดมั่นในแนวคิดอนุรักษ์นิยมจำนวนมาก ถือเป็นการเปิดทางให้ทรัมป์แต่งตั้งผู้พิพากษานีล กอร์ซัช
Senate Minority Leader Mitch McConnell, Republican of Kentucky, speaks during a news conference at the US Captiol on November 6, 2024, in Washington, DC.
Allison Robbert | Afp | Getty Images
แมคคอนเนลล์ ทำหน้าที่ควบคุมดูแลการแต่งตั้งผู้พิพากษาศาลฎีกา 3 รายของทรัมป์ในช่วงดำรงตำแหน่งวาระแรกของเขา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของผู้พิพากษา 234 รายที่ได้รับการแต่งตั้งในช่วงระยะเวลา 4 ปี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้มีแนวคิดอนุรักษ์นิยมรุ่นใหม่ที่จะทำหน้าที่ต่อหลายชั่วรุ่น ซึ่งเขามองว่าเป็นความสำเร็จที่เขาภาคภูมิใจที่สุด
นอกจากนี้ แม็คคอนเนลล์ยังช่วยผลักดันกฎหมายภาษีปี 2017 ของทรัมป์ผ่านวุฒิสภา ซึ่งถือเป็นผลงานด้านนิติบัญญัติอันโดดเด่นของทรัมป์ในช่วงดำรงตำแหน่งวาระแรกของเขา นอกจากนี้ เขายังทำหน้าที่ในคณะกรรมการจัดสรรงบประมาณเป็นเวลาหลายปี และใช้ตำแหน่งหน้าที่ของตนเพื่อจัดสรรเงินทุนของรัฐบาลกลางไปยังรัฐเคนตักกี้ บ้านเกิดของเขาอย่างไม่ลังเล
ก่อนหน้านั้น แม็คคอนเนลล์ได้รับชื่อเสียงในฐานะ ”ดร.โน” ในยุคของโอบามา โดยได้รวบรวมกลุ่มของเขาเพื่อคัดค้านนโยบายส่วนใหญ่ของประธานาธิบดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระราชบัญญัติการรักษาพยาบาลราคาประหยัด หรือที่เรียกอีกอย่างว่า โอบามาแคร์ ในปี 2009 และ 2010 เจ็ดปีต่อมา
เขาพยายามจะยกเลิกกฎหมายดังกล่าว แต่ในภาพที่โด่งดังในปัจจุบัน วุฒิสมาชิกจอห์น แม็คเคน จากพรรครีพับลิกัน รัฐแอริโซนา ได้สร้างความตกตะลึงให้กับเขาด้วยการคว่ำหน้าอย่างไม่คาดคิดบนพื้นวุฒิสภา เพื่อทำลายหนึ่งในลำดับความสำคัญสูงสุดของแม็คคอนเนลล์
ภาพลักษณ์ของ 'ดร.โน' ผ่อนคลายลงบ้างภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เมื่อแม็กคอนเนลล์อนุมัติข้อตกลงข้ามพรรคหลายฉบับ เช่น การขยายการใช้จ่ายโครงสร้างพื้นฐาน การลงทุนในเซมิคอนดักเตอร์ผ่าน CHIPS และ Science Act รวมถึงมาตรการอื่นๆ ที่กลายเป็นกฎหมาย
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แม็คคอนเนลล์ทุ่มเทพลังงานให้กับนโยบายต่างประเทศและพยายามปกป้องการมีส่วนร่วมของอเมริกาอย่างเข้มแข็งเพื่อกำหนดทิศทางของกิจการโลกและรักษาระเบียบหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เขามีความคิดเห็นแตกต่างกับทรัมป์ ซึ่งวิสัยทัศน์ 'อเมริกาต้องมาก่อน' เรียกร้องให้มีส่วนร่วมน้อยลงในกิจการโลก ทั้งสองมีความเห็นไม่ตรงกันอย่างชัดเจนเกี่ยวกับความช่วยเหลือของสหรัฐฯ ต่อยูเครน
นอกจากนี้ แม็คคอนเนลล์ยังถูกจดจำในฐานะผู้ปกป้องอย่างแข็งขันในการใช้เกณฑ์ฟิลิบัสเตอร์ 60 เสียงเพื่อให้ผ่านกฎหมายส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ครั้งหนึ่งเคยใช้ไม่บ่อยนักแต่กลายเป็นเรื่องปกติในช่วงดำรงตำแหน่งผู้นำกลุ่มเสียงข้างน้อยครั้งแรก เขาต่อต้านข้อเรียกร้องในวาระแรกของทรัมป์ที่ต้องการให้ยกเลิกเกณฑ์ 60 เสียง
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แม็คคอนเนลล์ต้องต่อสู้กับปัญหาสุขภาพหลายอย่าง รวมทั้งภาพติดๆ ขัดๆ หลายครั้ง และเมื่อไม่นานนี้เองที่ทำให้เขาต้องนั่งรถเข็นทำงานในวุฒิสภา นอกจากนี้ แม็คคอนเนลล์ยังถูกมองว่าไม่เป็นมิตรกับขบวนการ 'MAGA' ของทรัมป์ที่เข้ามาครอบงำพรรค ทำให้หลายคนคาดการณ์ว่าแม็คคอนเนลล์จะเกษียณจากตำแหน่งมานานแล้ว
