หมวดหมู่: การตลาด

email1737533456252กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร Toshiba 1


 

โตชิบาโตเกินคาด ทุบสถิติโต 24% พร้อมรุกตลาดปี 68 เปิดตัวสินค้าใหม่ 53 รุ่น ตั้งเป้าโต 25%

 

โตชิบา ไทยแลนด์ โตทะลุเป้าต่อเนื่อง 5 ปี เร่งเครื่องพร้อมโตต่อเนื่อง ลุยปี 68 เปิดตัวสินค้าใหม่ จับตลาด Mid to High แนะนำแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกคนใหม่ ทาคาชิ โซริมาจิ พระเอก นักแสดงชื่อดังชาวญี่ปุ่น มร.อเล็กซ์ มา รองประธานบริษัท บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวถึงภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน (รวมตู้เย็น เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านขนาดเล็ก ไม่รวมทีวี) ในประเทศไทย ปี 2567 มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 83,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นจากปี 2566 ประมาณ 9% และเมื่อดูเป็นจำนวนเครื่อง มีประมาณ 21 ล้านเครื่อง เติบโตราว 4% โดยแบ่ง

email1737533485466Toshiba 3

ประเภทสินค้าเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ สินค้าชิ้นใหญ่ (Major Appliance) ซึ่งประกอบด้วย ตู้เย็น เครื่องซักผ้า และเครื่องปรับอากาศ มีมูลค่าตลาดประมาณ 65,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตถึง 11% และเมื่อดูเป็นจำนวนเครื่อง มีประมาณ 5.6 ล้านเครื่อง เติบโตประมาณ 8% ปัจจัยหลักที่ทำให้ตลาดสินค้าชิ้นใหญ่เติบโตได้ดี ส่วนหนึ่งมาจากสภาพอากาศที่ร้อนมากในช่วงหน้าร้อน ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจที่มีการขยายตัวต่อเนื่อง ส่งผลให้เครื่องปรับอากาศ และตู้เย็นเป็นที่ต้องการในตลาดอย่างสูง ในขณะที่สินค้ากลุ่มที่ 2 ได้แก่สินค้าขนาดเล็ก (Small Appliance) อาทิ หม้อหุงข้าว ไมโครเวฟ เครื่องทำน้ำอุ่น พัดลม เป็นต้น มีมูลค่าตลาดประมาณ 18,000 ล้านบาท อัตราการเติบโตทรงตัว และจำนวนเครื่องประมาณ 15.4 ล้านเครื่อง เติบโตประมาณ 3% อย่างไรก็ตามสินค้าชิ้นเล็กไม่เติบโตตามคาด เนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย ประกอบกับกำลังซื้อผู้บริโภคลดลง ในส่วนผลการดำเนินงานของโตชิบา ไทยแลนด์ มร.อเล็กซ์ มา เปิดเผยว่า “ปี

email1737533494495Toshiba 2

2567 เป็นปีที่บริษัทฯ ฉลองครบรอบดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาครบ 55 ปี และบริษัทฯ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง โดยผลประกอบการรวมเติบโตสูงถึง 24% ซึ่งสูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้มาก โดยกลุ่มสินค้าที่สร้างรายได้สูงสุดให้แก่บริษัทฯ ได้แก่ สินค้ากลุ่มตู้เย็น มีอัตราการเติบโต 20% รองลงมาได้แก่กลุ่มเครื่องซักผ้า เติบโตถึง 39% ในขณะที่กลุ่มสินค้าอื่น เช่นกลุ่มเตาอบไมโครเวฟ เติบโต 21% กลุ่มสินค้าหม้อหุงข้าว และเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก เติบโต 10% กลุ่มสินค้าเกี่ยวกับน้ำ อาทิ เครื่องทำน้ำอุ่น ทรงตัว สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับน้ำ แม้โตชิบาจะไม่เติบโต แต่ภาพรวมตลาดติดลบเกิน 10% เนื่องจากอากาศไม่เอื้ออำนวย และกลุ่มสุดท้ายคือเครื่องปรับอากาศ เติบโต 82% เพียงแต่สัดส่วนการขายไม่มาก และตลอด 5 ปีที่ผ่านมา (ปี 2562-2567) เราสามารถรักษาอัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้น (CAGR) เฉลี่ย 5 ปี ได้ถึง 15%” “จากผลประกอบการที่ดีต่อเนื่องมาตลอดหลายปี ทำให้ปัจจุบัน โตชิบามีส่วนแบ่งการตลาดติดอันดับท็อป 3 ในเกือบทุกกลุ่มสินค้า โดยกลุ่มสินค้าไมโครเวฟ มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ด้วยแชร์ 29% กลุ่มตู้เย็น อันดับ 2 ด้วยแชร์ 15.9% กลุ่มหม้อหุงข้าว อันดับ 2 ด้วยแชร์ 9% และกลุ่มเครื่องซักผ้า อันดับ 3 ด้วยแชร์ 11.1 % ซึ่งปัจจัยที่ทำให้โตชิบาเติบโตได้

email1737533504812อเล็กซ์ มา Toshiba 2

ต่อเนื่อง และเป็นที่ยอมรับของตลาด จนส่งผลให้มีส่วนแบ่งการตลาดสูง มาจากความเชื่อมั่นในแบรนด์ ที่บริษัทฯ ทำกิจกรรมต่อเนื่องมาตลอด โดยเฉพาะปี 2567 ที่ผ่านมา ที่ได้คุณหมาก ปริญ สุภารัตน์ มาช่วยสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ และขยายฐานไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ มากขึ้น นอกจากนี้ ด้วยคุณภาพ และมาตรฐานผลิตภัณฑ์โตชิบา ซึ่งเป็นที่ยอมรับในกลุ่มผู้บริโภคและคู่ค้า ในแง่ของความทนทาน ดีไซน์ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ รวมไปถึงแนวความคิดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ใส่ใจในรายละเอียด และความต้องการของผู้บริโภคเป็นหลัก ทำให้ผลิตภัณฑ์โตชิบาได้รับการตอบรับที่ดีขึ้นในทุกๆ ปี มากไปกว่านั้น เรามีพันธมิตรทางการค้าที่ดี ที่เชื่อมั่นในโตชิบา ทำให้บริษัทฯ สามารถขยายช่องทางการจัดจำหน่ายไปยังกลุ่มเป้าหมายได้ครอบคลุม ทั่วถึง และมีการจัดการบริหารงานภายใน ทั้งในเรื่องซัพพลาย

 

เชน และการทำงานเป็นทีมเวิร์คได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น” มร.อเล็กซ์ กล่าวเสริมว่า “สำหรับปี 2568 นี้ บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายเติบโต 25% และเป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน อันดับ 1 ในประเทศไทย นอกจากนี้มีแผนเปิดตัวสินค้าใหม่มากถึง 53 รุ่น โดยเน้นเจาะตลาดผู้ใช้กลุ่ม Mid to High ที่ให้ความสำคัญเรื่องดีไซน์ และคุณสมบัติสินค้ามากขึ้น จากปีที่แล้วที่เปิดตัวตู้เย็นซีรีส์ JapanDi สีขาว สวยโดดเด่น ได้รับการตอบรับดีมาก ปีนี้จะมีสินค้ากลุ่มอื่นที่ออกมาเป็นซีรีส์เดียวกัน เพื่อเอาใจลูกค้ามากขึ้น นอกจากนี้เรามีแผนขยายช่องทางการจัดจำหน่ายเพิ่มอีกกว่า 500 แห่ง โดยเน้นขยายจุดวางสินค้ากลุ่มไฮเอนด์มากขึ้น รวมไปถึงการทุ่มเงินในการปรับโฉมร้านค้าให้ดูสวย ทันสมัยขึ้น อีกทั้งยังเพิ่ม Experience

email1737533521741อเล็กซ์ มา Toshiba 2

Store ที่เน้นการโชว์สินค้ากลุ่ม Smart Solution เพื่อให้ผู้บริโภคได้เข้ามามีประสบการณ์การใช้งาน ณ จุดขาย และเพิ่มจำนวนและพัฒนาคุณภาพพนักงานขายหน้าร้าน เพื่อสามารถช่วยเหลือลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการได้อย่างรวดเร็ว ทั่วถึง” “สำหรับในส่วนการตลาด เราทุ่มงบเพิ่มขึ้นมาก นอกจากการทำการตลาดแบบ 360 องศา ทั้งออนไลน์ และออฟไลนด์แล้ว ปีนี้ เราอัพเกรดแบรนด์แอมบาสเดอร์เป็นระดับภูมิภาค และยังมีแผนการตลาดอีกมากมายที่ช่วยขับเคลื่อนกิจกรรมส่งเสริมการขาย และส่วนสุดท้ายที่ โตชิบาให้ความสำคัญ คืองานบริการ เพราะเราให้ความสำคัญกับลูกค้า โดยมีแผน

 

เพิ่มช่องทางพิเศษสำหรับให้บริการสินค้ากลุ่มไฮเอนด์ มีการเพิ่มรถโมบายเซอร์วิส เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าโดยเพิ่มทีมการให้บริการถึงบ้าน (Onsite service) รวมไปถึงการขยายจำนวนศูนย์บริการ และการปรับภาพลักษณ์ศูนย์บริการพรีเมียม และงานบริการให้สะดวก รวดเร็วมากขึ้น” มร.อเล็กซ์ กล่าวทิ้งท้าย นายเอกดนัย ตันติภูมิอมร ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์

 

ผลิตภัณฑ์ บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา โตชิบาวางกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ไว้ 3 แกนคือ 1) เจาะตลาดแมส (Mass Segment) โดยสรรหาผลิตภัณฑ์ที่ทุกบ้านต้องมี โดยส่งผลิตภัณฑ์คุณภาพ ในราคามิตรภาพเพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้าง 2) ขยายฐานไปยังกลุ่มระดับกลางถึงบน (Mid to High Segment) ที่เติบโตขึ้นในทุกปี กลุ่มนี้จะมีความต้องการมากขึ้นในเชิงต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีขนาดความจุใหญ่ขึ้น และ/หรือ สเปคบางอย่างที่มาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของเขา อาทิต้องการความสะดวกสบาย ต้องการประหยัดเงิน 3) เจาะเข้าตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) โดยส่งผลิตภัณฑ์ที่มีความโดดเด่นในแต่ละเรื่องแตกต่างกัน ทั้งในเรื่องดีไซน์ สเปค หรือเทคโนโลยี สำหรับปี 2568 นี้ เรามีแผนขยายสินค้าใหม่มากถึง 53 รุ่น โดยแบ่งเป็นกลุ่มตู้เย็นจาก 11 รุ่น กลุ่มเครื่องซักผ้า 19 รุ่น กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องครัว 16 รุ่น และกลุ่มเครื่องใช้ในบ้านอีก 7 รุ่น” “จากที่มิสเตอร์อเล็กซ์ กล่าวไปก่อนหน้านี้ ปีที่แล้วบริษัทฯ เปิดตัวตู้เย็นซีรีส์ JapanDi ใหม่ 2 รุ่น เป็นตู้เย็นมัลติดอร์ และเฟรนช์ดอร์สีขาว สวยโดดเด่น ได้รับการตอบรับดีมาก ปีนี้เราเพิ่มไลน์อัพสินค้า

 

JapanDi ให้เต็มมากขึ้น ด้วย ไมโครเวฟ รุ่น MX1-TH23SC(WH) สีขาว ด้ามจับเป็นลายไม้ สวยสะดุดตา ความจุ 23 ลิตร เป็นไมโครเวฟอินเวอร์เตอร์ ช่วยประหยัดไฟ เป็นระบบ 4 in 1 สามารถอุ่น ย่าง อบ และนึ่งในเครื่องเดียว สามารถอบไอน้ำได้ ซึ่งนอกจากจะใช้ทำอาหารแล้ว ยังใช้ทำความสะอาดเครื่อง หรือใช้สเตอริไลซ์จาน แก้ว ขวดนมได้ นอกจากนี้ มีเมนูทำอาหารอัตโนมัติ 38 เมนู ทำให้สะดวกในการใช้งาน นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนเปิดตัวเครื่องซักผ้าฝาหน้า และเครื่องอบผ้าในซีรีส์เดียวกัน โดยเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าดังกล่าว สวยสง่าด้วยตัวเครื่องสีขาว พาแนลหน้าจอลายไม้ สามารถบิวท์อินเข้ากับครัว ที่มีทั้งตู้เย็น และ

 

ไมโครเวฟได้เป็นซีรีส์เดียวกัน นอกจากนี้ยังสามารถเลือกวางได้ 2 แบบคือ วางซ้อนคู่บนล่าง หรือวางคู่กันซ้ายขวา ตามสไตล์ที่ชอบ สำหรับเครื่องซักผ้าฝาหน้า รุ่น TW-T37BZP115MWT(WT) ความจุ 10.5 กิโลกรัม โดดเด่นเรื่องพลังฟองนาโน Ultra Fine Bubble Pro สร้างฟองที่ละเอียดและเล็กกว่าเดิม ช่วยขจัดคราบได้ดียิ่งขึ้น ผนวกกับเทคโนโลยี The GreatWaves 2.0 พลังน้ำ 5 รูปแบบ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการซัก ถนอมเนื้อผ้า ประหยัดน้ำและไฟ อีกไฮไลท์ที่น่าสนใจ คือ Aroma+ กดเพียงครั้งเดียวเพื่อล็อคกลิ่นและความสดชื่น เพื่อผ้าหอมขึ้นและนานกว่า เครื่องซักผ้ารุ่นนี้ยังมีตัวถังขนาดใหญ่พิเศษ ขนาด 535 มิลลิเมตร ให้แรงในการปั่นผ้ามากขึ้นและทำให้ผ้ายับน้อยลง และเครื่องอบผ้า รุ่น TD-T37BS90HWT(WT) ความจุ 8 กิโลกรัม มีฟังก์ชัน Quick Dry 30’ อบผ้าแห้งไวใน 30 นาที เป็นระบบฮีทปั๊ม ปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมกับ

 

ประเภทของผ้า ช่วยถนอมผ้า และอีกคุณสมบัติที่โดดเด่นไม่แพ้กันคือ LuxeCare ที่จะใช้ไอน้ำทำความสะอาดผ้าแบบอ่อนโยน ช่วยลดฝุ่น ลดรอยยับ และกลิ่น ช่วยปกป้องผ้าที่ต้องการถนอมพิเศษ อาทิ ผ้าไหม ผ้าสูท” สำหรับตู้เย็น ปี 2567 ที่ผ่านมา ภาพรวมบริษัทฯ เติบโตถึง 20% และเป็นเจ้าตลาดในกลุ่มตู้เย็นประตูเดียว และตู้เย็น 2 ประตูขนาดเล็กมายาวนาน ซึ่งมีมาร์เก็ตแชร์สูงถึง 40% และเราโต 14% ในขณะที่ตู้เย็นขนาดกลาง โตขึ้นถึง 60% และตู้เย็นขนาดใหญ่ ไซด์บายไซด์ และตู้เย็น 4 ประตู ซึ่งเป็นเซกเมนต์ที่ตลาดโตสูงสุด โตชิบาโตขึ้น 200% และทำให้ตู้เย็นโตชิบารุ่น GR-RS600 ขึ้นแท่นเป็นตู้เย็นไซด์บายไซด์ที่ขายดีที่สุดในประเทศไทย สำหรับปี 2568 นี้ เรามีแผนเปิดตัวสินค้าใหม่ ถึง 11 รุ่น และตั้งใจพัฒนาคุณสมบัติ

 

ใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น อาทิ ตู้เย็นประตูเดียว จะมีระบบละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ เหมือนตู้เย็น 2 ประตู ในขณะที่ตู้เย็น 2 ประตูขนาดกลางจะสามารถทำน้ำแข็งอัตโนมัติได้ตั้งแต่ขนาดความจุ 14 คิว ซึ่งตู้เย็นทั่วไปจะเริ่มต้นทำน้ำแข็งอัตโนมัติได้ที่ความจุ 16 คิวเป็นต้นไป ซึ่งตู้เย็นขนาดกลางรุ่นใหม่ล่าสุดนี้ นับเป็นความภูมิใจทั้งในเรื่องสเปกสินค้าและราคาที่สามารถแข่งขันในตลาดได้ดีขึ้น และสำหรับเซกเมนต์ใหญ่สุด เราจะจำหน่ายตู้เย็นไซส์บายไซส์ และตู้เย็น 4 ประตูรุ่นใหม่ ที่มีความจุมากที่สุดในตลาด ด้วยความจุ 700 ลิตร หรือ 25 คิว ซึ่งจะมาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด Pure Air Turbo ที่มีคุณสมบัติกำจัดกลิ่นได้เร็วกว่าเดิมถึง 3 เท่า ด้วยการปล่อย

 

ประจุไฟฟ้าที่เยอะขึ้น และแรงขึ้นกว่าเดิม ในขณะเดียวกัน ได้พัฒนาระบบทำน้ำแข็งอัตโนมัติ (Auto Ice Maker) ใหม่ ให้ทำน้ำแข็งได้ 2 ขนาด ทั้งขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ เพื่อให้ผู้บริโภคเลือกให้เหมาะกับเครื่องดื่ม อีกทั้งยังสามารถทำและเก็บน้ำแข็งได้มากถึง 4 กิโลกรัม นับเป็นช่องเก็บน้ำแข็งที่ใหญ่กว่าตลาดถึง 1.4 กิโลกรัม นอกจากนี้ โตชิบาให้ความสำคัญกับเรื่องกลิ่น เรานับเป็นแบรนด์แรก ที่จะทำให้ท่านมั่นใจว่า น้ำแข็งที่ทำจากตู้เย็นโตชิบารุ่นนี้ มีความสะอาด และไม่มีกลิ่น เพราะภายในตู้เย็น จะมีระบบตัวกรอง ช่วยลดกลิ่นปะปนภายในเครื่อง ให้ท่านทานน้ำแข็งที่สะอาด บริสุทธิ์ อย่างแท้จริง สำหรับเครื่องซักผ้า ปีที่ผ่านมา นับเป็นปีที่เครื่องซักผ้าโตชิบาเติบโตสูงสุด โดยเติบโตถึง 40% โดยเฉพาะเครื่องซักผ้าฝาบน

 

ความจุ 12 กิโลกรัมขึ้นไปที่โตสูงถึง 70% ปัจจัยที่ทำให้โตชิบาเติบโตได้ดี เพราะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆออกสู่ตลาดมากขึ้น ซึ่งเป็นผลพวงจากการที่เราย้ายฐานการผลิตเครื่องซักผ้าฝาบนขนาด 10-17 กิโลกรัม และเครื่องซักผ้าฝาหน้าบางส่วนมาผลิตในประเทศไทย ทำให้ราคาสินค้าสามารถแข่งขันกับตลาดได้มากขึ้น ส่งผลให้เครื่องซักผ้าฝาหน้าของโตชิบา เติบโตเพิ่มขึ้นเท่าตัว ในขณะที่ตลาดโตเพียง 6.3% สำหรับปี 2568 นี้ เรามีแผนเพิ่มผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องซักผ้าใหม่มากถึง 19 รุ่น ตั้งเป้าเติบโต 20% โดยไฮไลท์แรกคือการเพิ่มไลน์อัพเครื่องผ้าฝาบนความจุ 18-19 กิโลกรัม นอกจากนี้ยังอัพสเปก เพิ่มคุณสมบัติเด่น Aroma+ ที่ช่วยทำให้ผ้าหอมยาวนานกว่าเดิม 2 เท่า รวมถึงการเพิ่ม Steam Wash ระบบพ่นไอน้ำเพื่อยับยั้งเชื้อโรคต่างๆก่อนซัก นอกจากนี้ ยังเปลี่ยนฟิลเตอร์ในเครื่องซักผ้ามาเป็นสแตนเลส เพื่อเพิ่มความคงทน และความสะอาดให้แก่เครื่องซักผ้ามากขึ้น เหล่านี้นับเป็นดีเทลเล็กๆที่เราตั้งใจเพิ่มฟังก์ชันต่างๆให้แก่ผู้บริโภค ในส่วนเครื่องซักผ้าฝาหน้า ต่อยอดความสำเร็จจากปีที่ผ่านมา ที่ล็อนช์เครื่องซักผ้า

 

จอสี และได้รับการตอบรับที่ดี เราขยายไลน์อัพเพิ่มรุ่นความจุ 13 กิโลกรัม และ 15 กิโลกรัม ทั้งเครื่องซักผ้าและเครื่องซัก-อบผ้า นอกจากนี้ยังเพิ่มคุณสมบัติเด่น Ultra Fine Bubble Pro ที่นอกจากจะสร้างอณูฟองขนาดเล็กระดับนาโนแล้ว ยังเพิ่มการใส่ประจุไฟฟ้าที่มาช่วยขจัดคราบสิ่งสกปรกในผ้า สำหรับผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านขนาดเล็ก ทั้งที่ใช้ในครัวและในบ้าน เราคือผู้นำอย่างแท้จริงด้วยผลิตภัณฑ์กว่า 130 รุ่น โดยพระเอกของสินค้ากลุ่มนี้คือ ไมโครเวฟที่เติบโตต่อเนื่องจนทำให้โตชิบา เป็นผู้นำอันดับ 1 ของตลาด นอกจากนี้ยังมีหม้อหุงข้าวของโตชิบา ที่นับเป็นไฮไลท์ที่

 

ต้องถูกพูดถึงในเพจโซเชียลต่างๆมากมาย ว่าเป็นหม้อที่หุงข้าวได้อร่อย นุ่ม ด้วยคุณสมบัติโดดเด่นคือ หม้อในหนา 4 มิลลิเมตร และตัวสุดท้ายที่ได้รับการตอบรับที่ดีมากคือ เครื่องทำน้ำอุ่นรุ่น SensTemp ที่ควบคุมอุณหภูมิของน้ำได้เสถียร สำหรับในปี 2568 นี้ บริษัทฯมีแผนเปิดตัวสินค้าใหม่ในกลุ่มนี้ มากถึง 23 รุ่น ทั้งหม้อหุงข้าว ไมโครเวฟ เครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องทำน้ำร้อน เครื่องกรองน้ำ และพัดลม เครื่องทำน้ำอุ่น และเครื่องทำน้ำร้อนของโตชิบารุ่นใหม่ล่าสุด ซีรีส์ SensTemp มีความปลอดภัยสูง ตัว

 

แทงค์เป็นทองแดง ทนทาน นำความร้อนได้ดี ป้องกันการเกิดตะกรัน และที่โดดเด่นคือ มีการติดตั้งเซนเซอร์ที่วาล์วน้ำเข้า เพื่อตรวจจับอุณหภูมิ ระบบจะคำนวณค่าพลังงานที่เหมาะสม เพื่อปรับกำลังความร้อนให้เหมาะสม ดังนั้นแม้มีการใช้น้ำพร้อมกันในหลายๆที่ ตัวเครื่องจะคำนวณแรงดันน้ำ และปรับอุณหภูมิน้ำที่เหมาะสมให้ ทำให้คุณมั่นใจ อาบน้ำได้อุ่นสบาย พัดลมแบบสไลด์ 5 ใบพัด ที่ออกแบบดีไซน์ไซโคลน กระจายลมอย่างทรงพลังไกลถึง 12 เมตร ปรับความแรงได้ถึง 4 ระดับ มอเตอร์

 

ลูกปืน อายุการใช้งานทนทาน มีให้เลือก 3 สี คือ สีเทา สีเบจ และสีฟ้าเขียว นางสาวธัญปภัสส์ อริยะวรวัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวเสริมถึงกลยุทธ์ทางการตลาดว่า “ในปี 2567 ที่ผ่านมา นอกจากจะเป็นการเฉลิมฉลอง โตชิบาครบรอบ 55 ปีแล้ว เราประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงจากการสร้างแบรนด์ โดยใช้กลยุทธ์แอมบาสเดอร์มาร์เก็ตติ้ง คุณหมาก ปริญ สุภารัตน์ ช่วยทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยขยายฐานลูกค้ากลุ่มเดิมเข้าสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่ อีกทั้งยังเสริมภาพลักษณ์แบรนด์ให้ดูสมาร์ท อบอุ่น และทันสมัยยิ่งขึ้น สำหรับในปี 2568 นี้ เราอัพเกรดแบรนด์แอมบาสเดอร์เป็นระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยมีมิสเตอร์ ทาคาชิ โซริมาจิ พระเอกและนักแสดงชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น เข้ามาตอกย้ำ

 

ภาพลักษณ์โตชิบา แบรนด์สัญชาติญี่ปุ่น โดยได้ปล่อยหนังโฆษณาชุดแรกทางโซเชียล และป้ายโฆษณาทั้งนอกและในสนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงราย เชียงใหม่ หาดใหญ่ และภูเก็ตไปแล้วตั้งแต่ต้นปี นอกจากนี้ ยังมีแผนปล่อยหนังโฆษณาชุดใหม่ ภายใต้คอนเซปต์ “Toshiba Japan Origin คราฟต์ที่ดีไซน์ ใส่ใจทุกดีเทล” โดยมีไอเดียจาก 5 จุดเด่นของความเป็นญี่ปุ่น คือ ดีไซน์ (Design) ดีเทล (Detail) คุณภาพ (Quality) ความไว้ใจได้ (Trust) และ นวัตกรรม (Innovation) ทั้งนี้จะเผยแพร่ทางทีวี สื่อออนไลน์ รถไฟฟ้าบีทีเอส รถไฟฟ้าใต้ดิน บิลบอร์ดในกรุงเทพและต่างจังหวัด รวมไปถึงในออฟฟิศสำนักงาน รวมทั้งหมดกว่า 3,000 สกรีน นอกจากนี้ ยังมีสื่อ ณ จุดขาย และการทำคอนเทนต์ดิจิทัล โซเชียลมาร์เก็ตติ้ง และเสริมทัพด้วย KOLs ที่จะมาทำให้ผู้บริโภครู้จัก เข้าใจ

 

และเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์โตชิบามากยิ่งขึ้น” “นอกจากกิจกรรมการตลาดข้างต้น เราเตรียมพร้อมสำหรับโรดโชว์ และโปรโมชันต่างๆ ที่จะมาตอบแทนผู้บริโภคตลอดทั้งปี อีกทั้งยังมีแผนการปรับโฉมหน้าร้านค้าให้ดูสวยงาม ทันสมัย และมีแผนขยาย Experience Store เพิ่ม เพื่อให้ผู้บริโภคได้เข้าสัมผัส และทดลองใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่มที่เป็น Smart Solution เชื่อมต่อการใช้งานผ่านสมาร์ทโฟนได้ ทดลองการใช้ผลิตภัณฑ์เครื่องครัวได้ รวมไปถึงได้พูดคุยสอบถามการใช้งานกับพนักงานขายได้เสมือนมีผู้ช่วยส่วนตัว” นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่า “ปี 2567 ที่ผ่านมา เป็นปี

 

แห่งการเฉลิมฉลองครบรอบ 55 ปี ของการดำเนินธุรกิจของโตชิบา ไทยแลนด์ ซึ่งตลอดปีบริษัทฯ มีกิจกรรมการการตลาดและแคมเปญที่หลากหลาย ซึ่งช่วยให้เราเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายทั้งลูกค้ากลุ่มเดิมและกลุ่มใหม่ได้เป็นอย่างดี ความสำเร็จนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ หากขาดทีมงานชาวอิฐแดงทุกคนที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจ เปรียบเสมือนอิฐแต่ละก้อนที่รวมกันเป็นกำแพงที่แข็งแรง รวมถึงพาร์ทเนอร์ ตัวแทนจำหน่ายที่ให้การสนับสนุนโตชิบาเป็นอย่างดี และลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจในผลิตภัณฑ์แบรนด์

 

‘TOSHIBA’ จนบริษัทฯ เดินทางมาถึงปีที่ 55 ได้อย่างมั่นคง อย่างไรก็ตาม ปีนี้จะเป็นอีกปีที่เราต้องเผชิญกับความท้าทายจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย แต่บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่น ‘นำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต’ ให้กับคนไทย ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่ๆ มาตรฐานประเทศญี่ปุ่น เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของใช้งานของทุกคน เพิ่มความสะดวกสบาย เสริมสร้างสุขภาพที่ดี และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โตชิบา ไทยแลนด์ มุ่งมั่นที่จะเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมกับส่งเสริมการเติบโตของคู่ค้าและดีลเลอร์ให้เติบโตไปด้วยกัน และที่ขาดไม่ได้ คือการตอบแทนสังคม ด้วยกิจกรรมเพื่อสังคมต่างๆ เพื่อที่โตชิบา ไทยแลนด์จะได้เติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกันกับสังคมไทย”

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!