หมวดหมู่: การแพทย์-สธ

 

1741414850458


เปิดตัวแคมเปญรณรงค์ "Together Against RSV" ในประเทศไทย แพทย์แนะ เด็กแรกเกิดจนถึงแปดเดือนทุกคน ควรรับภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป ก่อนฤดูกาลการระบาดหนัก ในช่วงหน้าฝน มิถุนายนถึงตุลาคม ลดความรุนแรง ลดความเสี่ยงเข้านอนโรงพยาบาล หรือโรคเรื้อรังทางระบบทางเดินหายใจ

 

โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล ร่วมกับ ซาโนฟี่ เปิดตัวแคมเปญรณรงค์ "Together Against RSV" ในประเทศไทย รณรงค์ป้องกันโรคติดเชื้ออาร์เอสวีในเด็กทารก โดยได้รับการสนับสนุนจาก สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย (PIDST) ชมรมเวชศาสตร์ทารกแรกเกิดแห่งประเทศไทย และราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย (RCPedT) พร้อมได้รับเกียรติจากเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทยเป็นประธานในพิธีเปิด ตอกย้ำความมุ่งมั่นระดับนานาชาติในการต่อสู้กับเชื้อไวรัสอาร์เอสวี การติดเชื้ออาร์เอสวี ก่อให้เกิดภาระโรคที่สำคัญ

1741414850258

โดยเฉพาะในทารก ด้วยความเป็นโรคติดเชื้อไวรัสทางเดินหายใจที่พบได้บ่อย จึงมักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นไข้หวัดธรรมดา โดยมีอาการต่างๆ เช่น ไข้ ไอ น้ำมูกไหล และเจ็บคอ ซึ่งจะปรากฏขึ้นภายใน 4-6 วันหลังจากได้รับเชื้อ อย่างไรก็ตาม โรคติดเชื้ออาร์เอสวีนี้ ต่างจากไข้หวัดธรรมดา ตรงที่สามารถลุกลามอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นการติดเชื้อในปอดที่รุนแรง และก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น หลอดลมฝอยอักเสบ หรือปอดอักเสบ ซึ่งจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล โดยร้อยละ 90 ของทารกและเด็กเล็กจะติดเชื้อไวรัสอาร์เอสวีภายใน 2 ขวบ แม้ว่าโรคติดเชื้ออาร์เอสวีเกิดขึ้นได้กับคนทุกวัย ทารกทุกคนที่อายุต่ำกว่าหนึ่งปี

1741414850001

ไม่ว่าจะเกิดก่อนกำหนด หรือเกิดมาแข็งแรงครบกำหนด ล้วนมีความเสี่ยงสูงสุดต่อการติดเชื้ออาร์เอสวีอย่างรุนแรง และมักต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล องค์การอนามัยโลก (WHO) ประมาณการว่า มีเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ทั่วโลก ติดเชื้ออาร์เอสวี 33.8 ล้านราย/ปี และเสียชีวิต 160,000 ราย และ 2 ใน 3 ของเด็กทารกและเด็กเล็กทั่วโลก มีระบบทางเดินหายใจอักเสบเฉียบพลัน เนื่องจากเชื้อไวรัสอาร์เอสวี แพทย์หญิงสุรางคณา เตชะไพฑูรย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวชและโรงพยาบาลบีเอ็นเอช และผู้อำนวยการโรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล ในเครือบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นโรงพยาบาลเฉพาะทาง

1741414844768

สำหรับเด็ก เรามีความมุ่งมั่นที่อยากให้เด็กทุกคนเติบโตอย่างแข็งแรง และมีสุขภาพดีตั้งแต่เกิด โดยการผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยของ Smart Hospital กับความเชี่ยวชาญของทีมแพทย์ พร้อมการดูแลสุขภาพเด็กอย่างครบวงจรสู่มาตรฐานสากล ในโอกาสการเปิดอาคารของโรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับซาโนฟี่ ในการเปิดตัวโครงการรณรงค์ ‘Together Against RSV’ และการเปิด ‘ศูนย์การวินิจฉัย รักษา และป้องกันการติดเชื้ออาร์เอสวี’ เพื่อให้การดูแลแบบครบวงจร สำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหาการติดเชื้อไวรัสทางเดินหายใจอาร์เอสวี พร้อมเป็นสถานพยาบาลแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่จะได้มีภูมิคุ้มกัน

1741414843776

 

สำเร็จรูปที่ป้องกันการติดเชื้ออาร์เอสวีในทารกสำหรับผู้รับบริการ ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญในวงการแพทย์เด็ก เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป Nirsevimab (เนอร์ซีวิแมบ) นี้ จะช่วยลดโอกาสการติดเชื้อ ลดความเสี่ยงของโรคระบบทางเดินหายใจที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสอาร์เอสวี รวมถึงป้องกันภาวะแทรกซ้อนรุนแรงจากการติดเชื้อไวรัส อาร์เอสวี เช่น ปอดอักเสบ ปอดบวม เป็นต้น ทำให้เด็กไทยมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง เพราะเราอยากเห็นเด็กโตไปสุขภาพดี #โตไปไม่ป่วย” คุณเซนัป ซาดัท (Zainab Sadat) ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจวัคซีน ซาโนฟี่ ประจำภาคพื้นเอเซียตะวันออกเฉียงใต้และอินเดีย กล่าวว่า "ซาโนฟี่ ภูมิใจที่ได้ริเริ่มแคมเปญสร้างความตระหนักรู้

1741415699583

 

‘Together against RSV’ ในประเทศไทย ถือเป็นก้าวสําคัญสําหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เรายินดีอย่างยิ่งที่ได้เห็นความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม รวมถึงสมาคมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ร่วมกันรณรงค์สร้างความตระหนักรู้เพื่อป้องกันโรคติดเชื้ออาร์เอสวีในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการจัดการกับความท้าทายด้านสุขภาพที่สําคัญที่เกิดจากโรคติดเชื้ออาร์เอสวี โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลกระทบต่อทารก จากการผนึกกำลังในวันนี้ เราปรารถนาที่จะเห็นผลกระทบที่เป็นรูปธรรมในการปกป้องทารกไทยทุกคนจากโรคติดเชื้ออาร์เอสวี ซึ่ง

1741415700008

 

ตรงกับภารกิจของเราในการมุ่งมั่นไขว่คว้าความมหัศจรรย์ทางวิทยาศาสตร์เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้คน" ศ.พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ นายกสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย กล่าวเน้นย้ำถึงบทบาทสําคัญของการให้ความรู้และการป้องกันตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการเจ็บป่วยรุนแรง ที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสอาร์เอสวี จนต้องเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ว่า "โรคติดเชื้ออาร์เอสวี เป็นสาเหตุหลักของการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนล่าง และการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในประเทศไทยในเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี ภาระโรคนั้นรุนแรงมาก ทั้งทางตรงและทางอ้อม อาจร้ายแรงถึงแก่ชีวิต หรือก่อให้เกิดโรคระบบทางเดินหายใจตามมา เราจะสามารถลดผลกระทบของอาร์เอสวี ต่อทารกและครอบครัวได้อย่างมีนัยสําคัญ ผ่านการ

1741415700205

รณรงค์สร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรค และให้ความรู้ในด้านการป้องกัน ล่าสุดมีวิวัฒนาการเทคโนโลยีในการป้องกัน 2 วิธีคือ การให้วัคซีนในคุณแม่ขณะตั้งครรภ์เพื่อส่งต่อภูมิคุ้มกันมายังทารกทันทีหลังคลอด และการให้ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปฉีดแก่ทารกเลย ซึ่งเด็กเล็กทุกคนควรได้รับการป้องกัน เพราะโรครุนแรงเกิดได้แม้ในเด็กที่แข็งแรงดี ที่จริงแล้วเด็กที่นอนโรงพยาบาลจากอาร์เอสวีรุนแรงส่วนใหญ่เป็นเด็กที่แข็งแรงดีมาก่อน สำหรับแคมเปญ Together Against RSV นี้ นอกจากจะมุ่งหวังในการเผยแพร่และให้ความรู้เกี่ยวกับโรคแล้ว ยังรณรงค์ให้พิจารณาเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้เด็กทารกแรกเกิดปลอดภัยจากโรคติดเชื้อ RSV ตาม

 

แนวทางการให้ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป Nirsevimab เพื่อป้องกันโรครุนแรงจากการติดเชื้อไวรัสอาร์เอสวีที่จัดทำโดยราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย (RCPedT) ศ.นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา ประธานราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวเน้นย้ำถึงความสำคัญของการป้องกันโรคติดเชื้ออาร์เอสวีแต่เนิ่นๆ ว่า "ฤดูกาลในการระบาดของโรคติดเชื้ออาร์เอสวี มักเริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงตุลาคม ดังนั้นทารกทุกคนควรได้รับการป้องกันก่อนฤดูกาลการระบาดจะเริ่มขึ้น ทางราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย (RCPedT) ร่วมกับสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย ชมรมเวชศาสตร์ทารกแรกเกิดแห่งประเทศไทย สมาคมโรคระบบหายใจและเวชบำบัดวิกฤตในเด็กแห่งประเทศไทย และสมาคมโรคหัวใจเด็กประเทศไทย จึงได้จัดทำแนวทางการให้

 

ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป Nirsevimab ขึ้นมา โดยทางราชวิทยาลัยฯ แนะนำให้ Nirsevimab ในทารกแข็งแรงดีที่อายุต่ำกว่า 8 เดือนทุกราย และอาจพิจารณาให้ในทารกแข็งแรงดีอายุ 8-12 เดือน เพื่อป้องกันโรครุนแรงจากการติดเชื้ออาร์เอสวี โดยให้เพียงโดสเดียวก่อนฤดูกาลการระบาด สามารถคงประสิทธิภาพในการป้องกันครอบคลุมทั้งฤดูกาลการระบาด สำหรับทารกที่เกิดในช่วงฤดูกาลการระบาดสามารถรับภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปนี้ได้ทันที โดยสามารถให้พร้อมกับวัคซีนพื้นฐานชนิดอื่นๆได้” มีงานวิจัยระบุว่า ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป Nirsevimab (เนอร์ซีวิแมบ): ลดความเสี่ยงในการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจากการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนล่างได้ถึง 83.2% ลดความเสี่ยงของการเข้ารับ

 

การรักษาในโรงพยาบาลจากโรคอาร์เอสวี ที่มีอาการรุนแรงและต้องการออกซิเจนเสริมลงได้ 75.7% ลดระยะเวลาการพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ลดโอกาสในการเข้ารับการรักษาในหอผู้ป่วยหนักในเด็ก และลดความรุนแรงของโรคได้ สามารถรับภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปพร้อมกับวัคซีนพื้นฐานสำหรับเด็กได้ สำหรับมาตรการป้องกันนี้ มีความสำคัญในการช่วยลดอุบัติการณ์และความรุนแรงของการติดเชื้ออาร์เอสวี เพื่อปกป้องสุขภาพของทารกแรกเกิด ซึ่งเป็นประชากรที่อ่อนแอและเปราะบางที่สุด ผู้ที่สนใจสามารถขอรับคำปรึกษาจากกุมารแพทย์ เกี่ยวกับทางเลือกในการป้องกันโรคติดเชื้ออาร์เอสวี ได้ที่สถานพยาบาลภาครัฐและเอกชนตั้งแต่วันนี้ เพื่อปกป้องเด็กทารกทุกคนให้ปลอดภัยจากโรคติดเชื้ออาร์เอสวี ในขวบปีแรกของชีวิต

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!