หมวดหมู่: พาณิชย์

รถบัสศึกษาดูงาน Copy


พาณิชย์ แนะผู้ส่งออกใช้ช่องทางออนไลน์ แนะนำ-ขายสินค้าไทยในอิตาลี

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) แนะผู้ส่งออกใช้ช่องทางออนไลน์ในการแนะนำและประชาสัมพันธ์สินค้าไทยในตลาดอิตาลี หลังผู้บริโภคเริ่มสนใจการซื้อสินค้าทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น เผยสินค้าที่ชาวอิตาเลียนค้นหามากสุดในปี 67 อาหารเสริมและวิตามิน ตามด้วยโทรศัพท์มือถือ ตู้เย็น ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เครื่องปรับอากาศ ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องซักผ้า ยา น้ำหอม รองเท้า

น.ส.สุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้มอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่าง ๆ ทำการสำรวจลู่ทางการค้าและโอกาสการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศที่ประจำอยู่ ตามนโยบายนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ล่าสุดได้รับรายงานจาก น.ส.อนงค์นารถ มหาสวัสดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองมิลาน อิตาลี ถึงการเติบโตของตลาดออนไลน์ในอิตาลี ในปี 2567 และโอกาสในการใช้ช่องทางออนไลน์ประชาสัมพันธ์สินค้าไทย เพื่อสร้างการรับรู้ กระตุ้นการบริโภค และการซื้อสินค้าไทย

ทั้งนี้ ทูตพาณิชย์ได้รายงานข้อมูลว่า ปี 2567 ที่ผ่านมา ตลาดดิจิทัลของอิตาลีขยายตัวอย่างต่อเนื่อง มีปัจจัยมาจากผู้บริโภคในประเทศมีความตระหนักในการออมเงินเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคหันมาให้ความใส่ใจในการเปรียบเทียบราคาก่อนการตัดสินใจซื้อสินค้าในแต่ละครั้งเพิ่มขึ้น โดยจากข้อมูลของเว็บไซต์ Trovaprezzi.it (เว็บไซต์อันดับหนึ่งของอิตาลีสำหรับเปรียบเทียบราคาสินค้าที่มีความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือ

ซึ่งได้รับความนิยมจากผู้ใช้จำนวนมากในการค้นหาผลิตภัณฑ์ในราคาที่ดีที่สุด) แจ้งว่า ปี 2567 มีการค้นหาข้อมูลสินค้าบนเว็บไซต์ Trovaprezzi.it สูงถึง 252 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้น 9.9% เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่มีจำนวน 230 ล้านครั้ง ซึ่งการขยายตัวดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในอิตาลีต่อการชอปปิ้งออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น

โดยหมวดผลิตภัณฑ์ที่ถูกค้นหา เพื่อเปรียบเทียบราคาบนเว็บไซต์ Trovaprezzi.it มากที่สุดในปี 2567 คือ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและวิตามิน มีการค้นหามากกว่า 24.2 ล้านครั้ง หรือคิดเป็นสัดส่วน 9.63% ของจำนวนการค้นหาทั้งหมด ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสะท้อนถึงความใส่ใจของชาวอิตาเลียนต่อการมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี อันมีปัจจัยสนับสนุนมาจากการส่งเสริมถึงการตระหนักรู้ที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความสำคัญของการดูแลและป้องกันสุขภาพของผู้บริโภคในประเทศ

ส่วนโทรศัพท์มือถือและสมาร์ทโฟน มีการค้นหามากกว่า 12.4 ล้านครั้ง สัดส่วน 4.96% เนื่องจากผู้บริโภคในประเทศให้ความสนใจในอุปกรณ์ที่ใช้นวัตกรรมเพิ่มขึ้น รองลงมา คือ ตู้เย็นและตู้แช่แข็ง มีการค้นหา 7.6 ล้านครั้ง สัดส่วน 3.02% อันมีผลมาจากแรงจูงใจจากรัฐบาลในการสนับสนุนเครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดพลังงาน

นอกจากนี้ ยังมีหมวดสินค้าและผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ได้รับความสนใจในการค้นหา ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ เพื่อสุขภาพ 7.46 ล้านครั้ง เครื่องปรับอากาศและเครื่องลดความชื้น 6.6 ล้านครั้ง และผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า 6.25 ล้านครั้ง เครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น เครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้า 5.94 ล้านครั้ง ขณะที่ผลิตภัณฑ์ยา (ที่ไม่มีใบสั่งจากแพทย์) 5.12 ล้านครั้ง น้ำหอม 4.77 ล้านครั้ง และรองเท้าผ้าใบและรองเท้ากีฬา 4.59 ล้านครั้ง

สำหรับ การค้นหาข้อมูลสินค้าผ่านสมาร์ทโฟน มีสัดส่วนสูงถึง 73.5% เพิ่มขึ้น 18.1% และยังพบว่า การค้นหาข้อมูลโดยผู้หญิง เพิ่มขึ้น 19.5% หรือมากกว่า 119 ล้านครั้ง คิดเป็นสัดส่วน 47.52% ของจำนวนการค้นหาทั้งหมดของผู้บริโภคในอิตาลี และการค้นหาข้อมูลโดยผู้ชาย มีจำนวน 132 ล้านครั้ง สัดส่วน 52.48% โดยกลุ่มอายุของผู้บริโภคออนไลน์ที่นิยมการค้นหาข้อมูลออนไลน์ ได้แก่ กลุ่มอายุ 35-44 ปี สัดส่วน 22.09% กลุ่มอายุ 25-35 ปี สัดส่วน 21.85%

และกลุ่มอายุ 45-54 ปี สัดส่วน 21.74% ขณะที่อายุเฉลี่ยของผู้บริโภคออนไลน์มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่ กลุ่มอายุ 45-54 ปี กลุ่มอายุ 55-64 ปี และกลุ่มอายุมากกว่า 65 ปี มีอัตราการเพิ่มขึ้นที่ 31%, 28% และ 32% ตามลำดับ ซึ่งเป็นสัญญาณของการรวมกลุ่มคนหลายรุ่นเข้าในโลกของอีคอมเมิร์ซมากขึ้น

โดยแคว้นที่มีการค้นหาข้อมูลผ่านอีคอมเมิร์ซมากที่สุด คือ แคว้นลอมบาร์ดี มีการค้นหามากกว่า 82.8 ล้านครั้ง สัดส่วน 33% รองลงมา คือ แคว้นลาซิโอ สัดส่วน 15% และแคว้นคัมปาเนีย สัดส่วน 8% โดยแคว้นเอมีเลีย-โรมัญญา แคว้นเวเนโต แคว้นพีดมอนต์ แคว้นซิซิลี แคว้นทัสคานี และแคว้นปูเกลีย มีสัดส่วนอยู่ที่ 5-7% ต่อแคว้น

น.ส.สุนันทา กล่าวว่า จากแนวโน้มการเติบโตของการค้นหาข้อมูลสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ดังกล่าว ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับตลาดอีคอมเมิร์ซในอิตาลี เพราะผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้า มีข้อมูลและตระหนักรู้มากขึ้น โดยที่ผ่านมา อิตาลีถือเป็นประเทศที่ระบบอีคอมเมิร์ซเข้ามามีบทบาทช้ากว่าประเทศอื่น ๆ ในยุโรป แต่เนื่องจากวิวัฒนาการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันที่ต้องการเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ธุรกิจต่างๆ ในอิตาลีปรับตัวตามกระแสโลก

เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคดิจิทัล ซึ่งข้อมูลข้างต้นแสดงให้เห็นว่า ปี 2567 ผู้บริโภคในอิตาลีให้ความสนใจค้นหาข้อมูลสินค้าที่เกี่ยวข้องด้านสุขภาพและด้านความสวย ความงาม มีสัดส่วนสูงถึง 19% จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทย ที่ต้องการเจาะตลาดอิตาลี โดยควรใช้ช่องทางออนไลน์ในการแนะนำสินค้า ประชาสัมพันธ์สินค้า โดยร่วมมือกับผู้นำเข้า ผู้จัดจำหน่าย ก็จะทำให้สินค้ามีโอกาสเข้าสู่ตลาดอิตาลีได้เพิ่มขึ้น

ในปี 2567 ที่ผ่านมา ไทยส่งออกสินค้ามายังอิตาลีมีมูลค่า 2,155.32 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น2.72% โดยสินค้าที่อยู่ในกลุ่มที่ผู้บริโภคในอิตาลีให้ความสนใจในการค้นหาข้อมูลที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ มูลค่า 268.84 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 11.94% และเครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ มูลค่า 44.31 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 137.30% เป็นต้น

 

Click Donate Support Web 

PTG 720x100

MTI 720x100

Banner GPF720x100 PXTOA 720x100

EXIM One 720x90 C JMTL 720x100

SME720x100 2024

CKPower 720x100

QIC 720x100

วิริยะ 720x100

aia 720 x100

BKI 720 x 100

ธกส 720x100

ใจฟู720x100pxAXA 720 x100

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!