IND คุณภาพคับจอ โชว์กำไรปี 67 พุ่งแตะ 57.89 ลบ. จัดเต็มแจกปันผล 0.0662 บ./หุ้น เคาะจ่ายวันที่ 20 พ.ค.นี้ ปูพรมลุยประมูลโปรเจคใหม่ ดันผลงานปี 68 โตเกิน 10-15%
บมจ.อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป (IND) สุดแจ่ม! โชว์ผลงานปี 2567 กำไรสุทธิแตะ 57.89 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมเท่ากับ 797.62 ล้านบาท อานิสงส์รับรู้รายได้งานโครงการใหม่จากภาครัฐและเอกชน รวมถึงบริหารต้นทุนได้อย่างดีเยี่ยม ขณะที่บอร์ดใจสปอร์ต! สั่งแจกปันผลเป็นเงินสดให้กับผู้ถือหุ้นอัตราหุ้นละ 0.0662 บาท กำหนดจ่ายวันที่ 20 พฤษภาคม 2568 ฟากซีอีโอ ‘ดร.พรลภัส ณ ลำพูน’ มั่นใจปี 2568 ผลงานเติบโตไม่ต่ำกว่า 10-15% โชว์งานในมือ (Backlog) รอรับรู้รายได้กว่า 2,924 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าประมูลโปรเจคใหม่ต่อเนื่อง
ดร.พรลภัส ณ ลำพูน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ IND เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวดปี 2567 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2567 ของบริษัทฯ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 57.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.53 ล้านบาท หรือ 333.31% จากปีก่อนมีกำไรสุทธิ 13.36 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมเท่ากับ 797.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.10 ล้านบาท หรือ 4.88% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 760.52 ล้านบาท
สำหรับปัจจัยที่สนับสนุนให้ผลการดำเนินงานเติบโตอย่างต่อเนื่อง มาจากรับรู้รายได้จากโครงการใหม่ๆ ที่ทยอยเข้ามา ประกอบกับทยอยส่งมอบงานในมือ (Backlog) ได้ตามแผน รวมทั้งมีการควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จากผลการดำเนินงานของปี 2567 ที่ยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ จึงได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผล สำหรับงวดปี 2567 ให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.0662 บาท รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้นไม่เกิน 23.17 ล้านบาท โดยกำหนดให้ผู้ถือหุ้นที่จะมีชื่อปรากฏ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 6 พฤษภาคม 2568 และกำหนดวันจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 20 พฤษภาคม 2568
สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างในปี 2568 มีแนวโน้มฟื้นตัวที่ดีขึ้น จากการที่รัฐบาลมีแรงขับเคลื่อนในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยผลักดันให้มีงานโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ออกมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานอื่นๆ ที่ยังมีแนวโน้มขยายตัว ทำให้เห็นสัญญาณบวกที่ส่งผลดีต่อธุรกิจ ซึ่งปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ไว้ไม่ต่ำกว่า 10-15% เทียบกับปีที่ผ่านมา โดยทยอยรับรู้รายได้จาก Backlog ที่มีอยู่ประมาณ 2,924 ล้านบาท (ณ สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2567)
“ที่ผ่านมากลุ่มบริษัทฯ ได้วางกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจอย่างเข้มข้น รวมถึงดำเนินธุรกิจได้ตามแผนที่วางไว้ จึงผลักดันให้รายได้และกำไรปี 2567 เติบโตตามที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งเชื่อว่านับจากนี้ภาพรวมธุรกิจจะเติบโตอย่างมีเสถียรภาพมากขึ้น จากการมุ่งเน้นเข้าร่วมประมูลงานใหม่ๆ ทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ รวมถึงภาคเอกชน รวมถึงศึกษาธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวกับธุรกิจพลังงานสะอาด ทั้งรูปแบบงานรับเหมาก่อสร้างแบบครบวงจร (EPC) เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจและรักษาอัตรากำไรให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งเพื่อสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นได้ในระยะยาว” ดร.พรลภัส กล่าวในที่สุด
2302