พาณิชย์ ตรวจท่าข้าว โรงสีอ่างทอง-อยุธยา ป้องกันกดราคา เอาเปรียบเครื่องชั่ง-ความชื้น
กรมการค้าภายในจัดสายตรวจเฉพาะกิจ นายตรวจชั่งตวงวัด และร่วมมือกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ลงพื้นที่ตรวจสอบท่าข้าว โรงสี ในพื้นที่ จ.อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ดูแลการรับซื้อข้าวนาปรัง ที่ผลผลิตกำลังเริ่มออกสู่ตลาด กำชับห้ามกดราคารับซื้อ เอาเปรียบเครื่องชั่ง เครื่องวัดความชื้น เพื่อรักษาความเป็นธรรมให้กับเกษตรกร
นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์ราคาข้าวนาปรังและการรับซื้อข้าวนาปรัง ตามนโยบายของนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ ที่ให้ติดตามสถานการณ์ราคาข้าวนาปรังอย่างใกล้ชิด จึงได้นำเจ้าหน้าที่สายตรวจเฉพาะกิจ นายตรวจชั่งตวงวัด และเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด ลงพื้นที่ จ.อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา
ตรวจสอบกำกับดูแลผู้ประกอบการรับซื้อสินค้าเกษตร โดยเฉพาะข้าวนาปรัง ที่ผลผลิตเริ่มออกสู่ตลาด ซึ่งผลผลิตจะออกสู่ตลาดมากในช่วง มี.ค.-เม.ย.2568 ร้อยละ 80 ของผลผลิตในพื้นที่ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทางการค้า ตรวจสอบดูแลไม่ให้มีการกดราคารับซื้อ มีการลดน้ำหนักความชื้นและสิ่งเจือปนตามหลักเกณฑ์ที่กําหนดและมีการแสดงราคารับซื้ออย่างชัดเจนเปิดเผย
โดยผลการตรวจสอบท่าข้าว และโรงสีในพื้นที่ พบว่า ราคารับซื้อข้าวเปลือกที่ความชื้น 15% อยู่ที่ 8,200-8,700 บาท/ตัน ความชื้น 25% อยู่ที่ 7,200-7,700 บาท/ตัน อีกทั้ง ผู้ประกอบการยังให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด มีการแสดงราคารับซื้อที่ชัดเจนและเปิดเผย ใช้เครื่องชั่งน้ำหนักที่เป็นไปตามมาตรฐานที่กรมกำหนด
“ขอฝากให้เกษตรกรชาวนา เก็บเกี่ยวผลผลิตที่ครบกำหนดอายุ เพื่อให้ราคาที่สูงขึ้นตามชั้นคุณภาพข้าว และให้เกษตรกรมั่นใจว่ากรมมีการส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเครื่องวัดความชื้น เครื่องชั่งน้ำหนักซื้อขายสินค้าเกษตรสม่ำเสมอ พร้อมเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการรับซื้อสินค้าเกษตรปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด”นายอุดมกล่าว
สำหรับ โทษตามกฎหมาย หากพบการกดราคารับซื้อ ต้องระวางโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีไม่แสดงราคารับซื้อตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขการรับซื้อหรือมีการคิดค่าชั่งน้ำหนักสินค้าเกษตรที่รับซื้อ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542
กรณีใช้เครื่องชั่งตวงวัดที่ไม่มีเครื่องหมายรับรองหรือคำรับรองสิ้นอายุในการซื้อขายสินค้า ต้องระวางโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และกรณีโกงเครื่องชั่งหรือใช้เครื่องชั่งตวงวัดที่มีการดัดแปลงแก้ไข ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 280,000 บาท ตาม พ.ร.บ.มาตราชั่งตวงวัด พ.ศ.2542
ทั้งนี้ หากเกษตรกรไม่ได้รับความเป็นธรรมในการขายสินค้าเกษตร หรือพบเห็นการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วน 1569 กรมการค้าภายใน หรือที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบ และหากพบการกระทำความผิด จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด